ญี่ปุ่น ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด โอไมครอน รายแรกแล้ว

ญี่ปุ่น ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด โอไมครอน รายแรกแล้ว

ทางการ ญี่ปุ่น ยืนยันพบ ผู้ป่วยโควิด โอไมครอน รายแรก เป็นทูตจากประเทศนามีเบีย หลังถูกพบว่าติดเชื้อที่สนามบินนาริตะเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน สำนักข่าว เกียวโด รายงานว่า ทางการญี่ปุ่นออกมายืนยันว่า ผู้ป่วยโควิดที่มีประวัติเดินทางมาจากประเทศ นามีเบีย ป่วยเป็นโควิดสายพันธ์โอไมครอน หลังจากที่เขาถูกพบเชื้อหลังเดินทางถึงสนามบินนาริตะประเทศญี่ปุ่น

โดยผู้ป่วยเป็นชายในช่วงอายุ 30 ปี เป็นนักการทูตผู้ชายจากประเทศนามิเบีย ซึ่งเป็นประเทศในทวีปแอฟริกา ที่หลายชาติประกาศปิดพรมแดนไปก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศว่าประเทศญี่ปุ่นเตรียมจะกลับมาปิดประเทศอีกครั้งในวันอังคารนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดโอไมครอนที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้

โดยนายคิชิดะระบุว่าพวกเขาเลือกจะใช้มาตรการดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวอาจเป็นมาตรการเพียงชั่วคราว จนกว่าข้อมูลเกี่ยวกับโควิดโอไมครอนจะมีมากขึ้น ก่อนหน้านี้ทางการญี่ปุ่นได้สั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางจาก 9 ประเทศในทวีปแอฟริกาแล้ว

อนุทิน เผย ไม่ไว้ใจ โควิดโอไมครอน ยืนยันว่าทาง สธ. จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมปรับมาตรการสู้กับ โควิดโอไมครอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงมาตรการป้องกันโควิดโอไมครอนที่ในขณะนี้ที่เป็นกังวล ว่า ที่ผ่านมาทางสธ.ก็จับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีการปรับเปลี่ยนมาตรการโดยตลอด

ส่วนของวัคซีนได้ระดมฉีด เพื่อเสริมเกราะให้ประชาชน ตอนนี้อยากให้ทุกคนรีบมาฉีด ตั้งเป้าปีนี้ฉีดให้ได้ 120 ล้านโดส และตั้งทีมวิจัยสายพันธุ์ไอไมครอน หวังว่าเร็ว ๆ นี้ จะมีวัคซีนที่สามารถป้องกันเชื้อตัวใหม่นี้ได้

ทั้งนี้ทางไทยก็มีการเตรียมการอยู่เสมอ ได้สั่งห้ามบางประเทศเข้าไทย และปรับมาตรการให้บางประเทศเข้ามาแล้วต้องกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้แบบไม่มีเงื่อนไข ส่วนข้อกังวลเรื่องผู้เดินทางระบบ Test&Go ที่จะเปลี่ยนวิธีการตรวจจาก RT-PCR เป็น ATK หลังเข้าประเทศ ได้สั่งให้ทบทวนแล้ว ย้ำว่าความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งที่เรากังวลและให้ความสำคัญมากที่สุด

ภาพรวมของสธ. คือ เราต้องเตรียมพร้อม ทั้งแผนการดำเนินการ เวชภัณฑ์ บุคลากร และวัคซีน เพื่อรองรับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และเรายังมองไปถึงในอนาคตที่ได้ดำเนินการเรื่องวัคซีนรุ่นใหม่ๆ ไว้แล้ว

ประวิตร ถามนักข่าว ‘ไม่เห็นชมเลยว่าได้เยอะ’ หลังคว้าเก้าอี้ อบต. 4.5 พันที่นั่ง

ประวิตร ขอบคุณประชาชนหลังคว้าเก้าอี้ อบต. ได้ 4,500 ที่นั่ง ย้อนถามนักข่าว “ไม่เห็นชมเลยว่าได้เยอะ” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการเลือกตั้ง อบต. ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา

โดยระบุว่า ได้มา 4,500 ที่นั่ง ต้องขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคพปชร. ก่อนย้อนถามสื่อว่า “ไม่เห็นชมเลยว่าได้เยอะ” อย่างไรก็ตามเพจเฟซบุ๊กของนาย สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดังได้โพสต์ตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า ไม่ส่งสนามท้องถิ่น เกรงว่าจะขัดม.34 พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้อง คำร้องเพิ่มเติม คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พยานหลักฐาน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเอกสารประกอบแล้ว เห็นว่า คดีมีทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมาย ปัญหาข้อเท็จจริงมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้แล้ว ส่วนปัญหาข้อกฎหมายศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยได้เองโดยไม่ต้องมีพยานบุคคลมาให้ความเห็น จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2561 มาตรา 48 วรรคหนึ่ง

อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงวินิจฉัยว่าการกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง และสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 รวมทั้งกลุ่มองค์กรเครือข่าย เลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสอง

โฆษกประจำสำนักนายก ได้ออกมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัย คนไทยในยูเครน เผยในขณะนี้ชาวไทยทุกคนยังปลอดภัย

นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีสถานการณ์ฉุกเฉินในยูเครน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์และรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเป็นห่วงคนไทยในยูเครน และต้องการให้ทุกคนได้รับการช่วยเหลือดูแล

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า