ร้านหอยจ๊อ ‘ชื่อดัง’ บางแสน โดนเล่น หลังแซะการเมือง แต่กระแสตีกลับเป็นแง่ดี

ร้านหอยจ๊อ ‘ชื่อดัง’ บางแสน โดนเล่น หลังแซะการเมือง แต่กระแสตีกลับเป็นแง่ดี

ร้านหอยจ๊อ “ชื่อดัง” ในเขตพื้นที่ บางแสน ตกเป็นเป้าทางการเมือง หลังโพสต์แซะสถานการณ์การเมืองล่าสุด แต่เหมือนว่ากระแสจะตีกลับมาเป็นในแง่ดีแทน โดยได้รับกำลังใจ และความสนใจเป็นอย่างยิ่ง(25 ส.ค. 2565) เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ร้านจรินทร์บางแสน ภัตตาคารอาหารทะเล – ร้านหอยจ๊อ ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในพื้นที่ บางแสน ได้ทำการโพสต์เนื้อหาบนเพจเฟซบู๊กของร้านที่ล้อเลียนสถานการณ์ทางการเมืองว่า  “อร่อยเกิน 8 ปี #จ๊อไม่เถื่อน”

โดยข้อความเต็มก็คือ “มีหลักฐานชี้ชัดเราอยู่มาเกิน 8 ปีแล้ว ไม่เถื่อนแน่นอน 

นึกถึงคุณภาพ นึกถึงเรา  เพราะเราเชื่อว่าของอร่อยจะช่วยเยียวยาหัวใจ รอยยิ้มของคุณ คือความสุขของเรา มาบางแสนต้องจรินทร์  จรินทร์ดั้งเดิมต้องจรินทร์บางแสน  ความอร่อยยาวนานกว่า 70ปี  ร้านอาหารของทุกคนในครอบครัว ”

ที่ซึ่งข้อความดังกล่าวก็ไปตรงกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเวลานี้พอดีอย่าง การยุติการทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทรโอชา หลังถูกยื่นเรื่องให้พิจารณาว่าการดำรงตำแหน่งของ พล.อ. ประยุทธ์ เกินกว่าที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญที่วางไว้ 8 ปีหรือไม่

ด้วยการที่ข้อความดังกล่าวดูเป็นการเสียดสี และสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มความคิดหนึ่งนั้น ก็ได้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นตำหนิทางร้าน พร้อมทั้งพยายามกดดันทางร้านค้าด้วยการกดดันว่าจะไม่ใช้บริการอีกต่อไป พร้อมด้วยการยุยงจากทางเพจเฟซบุ๊กที่มีแนวคิดทางด้านเดียวกันอีกด้วย

ทางร้านนั้นก็ได้มีการตอบโต้ความเห็นเหล่านี้ แบบไม่สนใจ พร้อมชี้แจงว่า ทางร้านมีหนทางในการจำหน่าย – ประกอบธุรกิจไม่ให้ล้มได้อยู่แล้ว และยินดีที่เหล่าคนที่มาแสดงความคิดในแง่ลบจะไม่ใช้บริการอีก

หลังจากที่โดนเผยแพร่จากทางเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวแล้วนั้น กระแสก็ดูเหมือนจะตีกลับ เนื่องจากทางร้านเริ่มได้รับกำลังใจ รวมถึงความสนใจจากกลุ่มคนอีกฝั่งที่มีแนวคิดไปในทางเดียวกันกับทางร้าน ที่ก็เรียกได้ว่าล้นหลามกว่ากระแสแง่ลบเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วนั้น ร้านอาหารที่เคยโดนในรูปแบบเดียวกัน อย่างร้านบะหมี่กวางตุ้ง “ตั้งฮกกี่” ก็ได้มาแสดงความเห็นสนใจ พร้อมทั้งแชร์โพสต์ดังกล่าวในเชิงให้กำลังใจด้วยเช่นกัน

ด้วยการที่ร้านถูกโจมตีทางการเมืองเช่นนี้ ทำให้หลายคนต่างแซวเอาว่า ร้านจรินทร์บางแสน จะกลายเป็น “อริราชศัตรู” ไปอีกรายหรือไม่ แต่การเป็นร้านแบบดังกล่าวนั้น ไม่ได้หมายความร้านจะถูกกดดันจนต้องปิดตัวไปเลยอีกต่อไปแล้ว มันกลับหมายความว่า ร้านดังกล่าวจะได้รับความรู้จัก/ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงยอมส่งผลให้มีผู้ให้การอุดหนุนจนยอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั้นเอง

กองสลาก ประกาศเพิ่มจำนวน สลากดิจิทัล งวด 16 กันยายน เป็น 11.4 ล้านใบ

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกาศเพิ่มจำนวน สลากดิจิทัล งวด 16 กันยายน เป็นจำนวน 11.4 ล้านใบ พร้อมทั้งเดินขยายจุดจำหน่ายสลาก 80 (25 สิงหาคม 2565) เวลา 15.00 น. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงความคืบหน้าการดำเนินงานของหน่วยงาน โดยจะมีการเพิ่มปริมาณ สลากดิจิทัล งวด 16 กันยายน เป็นจำนวน 11.4 ล้านใบ พร้อมทั้งเดินขยายจุดจำหน่ายสลาก 80 เพิ่มเติม

นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการฯ กล่าวว่า จากการที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินการจำหน่ายสลากดิจิทัล ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 จนถึงขณะนี้ ผ่านมาแล้ว 6 งวด มีผลตอบรับจากผู้ซื้อมีความพึงพอใจที่สามารถซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการได้จริง ในราคา 80 บาททุกใบ

โดยข้อมูลจำนวนผู้ซื้อสะสมตั้งแต่งวดที่ 1-6 มีประมาณ 2,800,000 ราย เป็นผู้ที่ซื้อประจำ 500,000 ราย(17%) ผู้ซื้อที่ไม่ได้ซื้อเป็นประจำ 2,300,000 ราย(83%) ส่วนใหญ่ประมาณ 50% จะซื้อสลากงวดละ 2-5 ใบ รองลงมา ซื้อสลากงวดละ 1 ใบ คิดเป็น 19% และซื้อสลากงวดละ 6-10 ใบ คิดเป็นลงมา 17%

อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการจำหน่ายสลากดิจิทัล ยังคงหมดลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น เพื่อให้มีระยะเวลาจำหน่ายที่เหมาะสมในแต่ละงวด คือ 7-10 วัน จึงได้เพิ่มปริมาณสลากงวดวันที่ 16 กันยายน 2565 เป็น 11,453,000 ฉบับ โดยสลากทั้งหมดเป็นของตัวแทนจำหน่าย 22,906 ราย โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2565 เวลา 06.00 – 23.00 น. ทุกวัน จนกว่าสลากจะหมด

นายลวรณ กล่าวว่า “สำหรับเป้าหมายในปีนี้ คือ ตั้งเป้าจำหน่ายสลากราคา 80 บาท ประมาณ 20 ล้านใบ ดังนั้น การเพิ่มทางเลือกให้ร้านค้าสามารถลดราคาสลากดิจิทัลได้จะมีประโยชน์ หากปริมาณสลากมีมากกว่า 15 ล้านใบ ในส่วนของเลขที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมและขายออกช้า ผู้ขายสามารถเลือกได้ว่า จะลดราคาลงเพื่อให้ขายง่ายขึ้น หรือจะเก็บสลากไว้ลุ้นรางวัล หากขายไม่ได้จนถึงวันสุดท้าย คนขายจะค่อยๆ ปรับตัวและเรียนรู้ ในส่วนของคนซื้อก็มีโอกาสได้ซื้อสลากราคาต่ำกว่า 80 บาท เราอยากเห็นประชาชนเป็นผู้ตั้งราคาสลาก อยากเห็นการปฏิเสธการซื้อสลากเกินราคา โดยจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้สลากในตลาดราคาถูกลงด้วย”

ในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และศึกษาผลกระทบทางสังคมเกี่ยวกับการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล และ L6 และ N 3 กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมและสรุปผลโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น คาดว่าจะสามารถส่งผลสรุปให้สำนักงานสลากฯ ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ 

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า